เมนู

ส่วนในบทว่า มโน ผสฺสายตนํ นี้ พึงทราบว่าได้แก่วิบากผัสสะ 22
กัมมัฏฐานนี้มาด้วยอำนาจผัสสายตนะ 6 ดังว่ามานี้. กัมมัฎฐานนั้นควรกล่าว
ทั้งโดยย่อ ทั้งโดยพิสดาร. ว่าโดยย่อก่อน ก็ในอายตนะ 6 นี้ อายตนะ 5
ข้อแรก ชื่อว่า อุปาทารูป เมื่อเห็นอายตนะ 5 นั้นแล้วก็เป็นอันเห็นอุปาทารูป
ที่เหลือด้วย. อายตนะที่ 6 คือ จิต เป็นวิญญาณขันธ์. ธรรม 3 ที่เหลือมี
เวทนาเป็นต้น ที่เกิดพร้อมกับวิญญาณขันธ์นั่น เป็นอรูปขันธ์. พึงทราบ
กัมมัฏฐานที่เป็นเหตุให้บรรลุอรหัตผล ทั้งโดยย่อ ทั้งโดยพิสดาร ตามนัยที่
กล่าวมาแล้วในตอนต้นนั่นแล.

มโนปวิจาร 18



บทว่า จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ความว่า เห็นรูปด้วยจักษุวิญญาณ.
บทว่า โสมนสฺสฏฐานิยํ ได้แก่ เป็นเหตุแห่งโสมนัส. ภิกษุเมื่อส่งใจ
เที่ยวไป ชื่อว่า เที่ยวไปอย่างใกล้ชิด ในบทว่า อุปวิจรติ นี้. แม้ใน
บทที่เหลือก็มีนัยนี้แล. ในบทว่า จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นี้ พึงทราบว่า
รูปจะเป็นที่น่าปรารถนาหรือไม่น่าปรารถนาก็ตาม เห็นรูปใดแล้วโสมนัสเกิดขึ้น
รูปนั้นชื่อว่า เป็นที่ตั้งแห่งโสมนัส. เห็นรูปใดแล้วโทมนัสเกิดขึ้น รูปนั้น
ชื่อว่า เป็นที่ตั้งแห่งโทมนัส เห็นรูปใดแล้วอุเบกขาเกิดขึ้น รูปนั้น ชื่อว่า
เป็นที่ตั้งแห่งอุเบกขา. แม้ในเสียงเป็นต้นก็นัยนี้ นี้แล. กัมมัฏฐานนี้
มาแล้วโดยย่อ ด้วยประการดังพรรณนามาฉะนี้. ส่วนกัมมัฏฐานนั้น ในที่ที่
มาแล้วโดยย่อ ควรกล่าวทั้งโดยย่อ ทั้งโดยพิสดาร. ในที่มาแล้วโดยพิสดาร.

ไม่ควรกล่าวโดยย่อ. แต่ในติตถายนสูตรนี้ กัมมัฏฐานนี้มาแล้วด้วยอำนาจ
มโนปวิจาร 18 โดยย่อ. กัมมัฏฐานนั้นควรกล่าวทั้งโดยย่อทั้งโดยพิสดาร.
ในกัมมัฏฐานนั้น ว่าโดยย่อก่อน รูป 9 เหล่านี้คือ จักขุ โสตะ
ฆานะ ชิวหา กาย รูป เสียง กลิ่น รส เป็นอุปาทารูป เมื่อเห็นอุปาทารูป
ทั้ง 9 เหล่านั้นแล้ว อุปาทารูปที่เหลือก็เป็นอันเห็นด้วยเหมือนกัน. โผฏ-
ฐัพพะ
คือ มหาภูตรูป 3 เมื่อเห็นมหาภูตรูปทั้ง 3 เหล่านั้นแล้ว มหา
ภูตรูปที่ 4
ก็เป็นอันเห็นด้วยเหมือนกัน. มโน เป็นวิญญาณขันธ์.
ธรรมทั้งหลายมีเวทนาเป็นต้นที่เกิดพร้อมกับวิญญาณขันธ์นั้นเป็น อรูปขันธ์.
พึงทราบกัมมัฏฐานที่เป็นเหตุให้บรรลุอรหัตผล ทั้งโดยย่อ ทั้งโดยพิสดาร
ตามนัยที่กล่าวแล้วในตอนต้นนั่นแล. บทว่า อริยสจฺจานิ ได้แก่ สัจจะ
ทั้งหลายที่ทำให้เป็นพระอริยะ หรือที่พระอริยเจ้าแทงตลอดแล้ว. ในที่นี้มี
ความย่อเพียงเท่านี้. แต่เมื่อว่าโดยพิสดารแล้ว บทนี้ได้ประกาศไว้แล้วใน
วิสุทธิมรรค.

ธาตุ 6



ถามว่า บทว่า ฉนฺนํ ภิกฺขเว ธาตูนํ นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
เริ่มไว้เพื่ออะไร. ตอบว่า เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย. จริงอยู่ พระตถาคตเจ้า
ประสงค์จะตรัสปัจจยวัฏฏกะ 12 บทแก่บุคคลใด ก็ทรงแสดงวัฏฏะคือ การ
ก้าวลงสู่ครรภ์แก่บุคคลนั้น. เพราะว่า เมื่อทรงแสดงวัฏฏะคือ ก้าวลงสู่
ครรภ์แล้ว ก็ทรงมีความสะดวกที่จะตรัสเองทั้งที่จะสอนผู้อื่นให้รู้. (ฉะนั้น)
จึงควรทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเริ่มบทนี้ไว้ ก็เพื่อสอนผู้อื่นให้
รู้ได้ง่าย.